หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

1st Anniversare@สวนเมืองพร

                 1 ปีแล้วที่เราแต่งงานกัน เราผ่านเรื่องราวแห่งความสุขมามากมาย  เราทั้งสองมีความสุขกับชีวิตครอบครัวอย่างมาก เกินความคาดหวัง เพราะเราคือคน2คนที่รักและเข้าใจกัน  ฉันแน่ใจว่าฉันเป็นภรรยาที่ดีพอ และกำลังจะเป็นคุณแม่แล้ว  คุณบิ๊กเป็นสามีที่ดีมาก แม้เราจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันทุกวัน(อยู่อาทิตย์ละ 2-3 วัน) แต่คุณบิ๊กสามารถแบ่งเวลาดูแลครอบครัวเราได้  เราพูดคุยกันเข้าใจไม่มีปัญหาอะไรกันเลย  และมีความห่วงใยซึ่งกันและกันมาก  มาถึงวันนี้ 1 พฤศจิกายน 2553  เราเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังจะมีครอบครัวทมี่สมบูรณ์ด้วยกันแล้วต้องฉลองกันหน่อยนะ
                 เราออกจากบ้านตอนสายๆ พาพ่อกับแม่ไปรับรถที่เข้าศูนย์ไว้ แล้วไปซื้อของเข้ารีสอร์ท(ของคุณบิ๊ก)  ไปธุระหลายต่อหลายที่ จนได้เวลาบ่าย 2กว่า แล้ว จึงมุ่งหน้าไปที่จัดเลี้ยงวันครบรอบของเรา เราไปถึงอำเภอสีคิ้วตอนบ่าย3 ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็น ก็เลยขับรถขึ้นเขาไปชมสถานีผลิตไฟฟ้าลำตะคองกัน วิวเขื่อนพักน้ำกับกังหันลมสวยมาก และอากาศเย็นสบายดีมากๆเลย
                ชมวิวที่สวยงามกันแล้ว ถ่ายภาพกันพอสมควรก็ลงจากสถานีผลิตไฟฟ้า แวะเข้าสวนเมืองพร ที่นี่บรยากาศดีมีต้นไม้เยอะแยะ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย แต่ที่จอดรถจะคับแคบไปหน่อย บางโซนที่จอดจะถอยออกต้องระมัดระวังอย่างดี ถ้าไปรถเก๋งก็ดูไม่แคบเท่าไหร่ แต่วันนั้นเอารถกระบะคันใหญ่ไป และได้ที่จอดที่มีต้นไม้ใหญ่เยอะนิดนึง  เลยต้องถอยอย่างระมัดระวัง  4โมงเย็นใกล้เวลาอาหาร ก็เลยสั่งมาทานกันทั้งที่ยังไม่หิวเท่าไหร่ รออาหารนานนิดหน่อย เพราะวันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะถ้าวันคนเยอะอย่างวันเสาร์-อาทิตย์จะรอนานมาก
                เรานั่งรับประทานอาหารไป ชมวิวไป พูดคุยประสาคนรู้ใจ ได้เห็นวิวสวยจิตใจก็สดชื่นรื่นรมย์
                       เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็ต้องไปเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของจุดชมวิวหลักของที่นี่กันต่อก่อนจะเดินทางกลับบ้านแสนสุขของเรา


ทริปฉวยโอกาส3ปาลิโอ-จุลดิศ

                 ปลายเดือนกันยายน 2553 เราได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามน้องสาวไปเที่ยวด้วย เพราะน้องสาวกำลังจะแต่งงานในเดือนพฤศจิกายนนี้เลยต้องไปถ่าย prewedding เลือกสถานที่เป็นที่โรงแรมจุลดิศซึ่งพี่ที่สนิทกันเป็นหุ้นส่วนอยู่ น้องจึงเข้าไปถ่ายภาพสวยๆได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ น้องสาวกับว่าที่เจ้าบ่าวพาตากล้องและช่างแต่งหน้าไปคันเดียวกัน ส่วนฉันไปคันเดียวกับพ่อแม่และสามี
                คุณบิ๊กเก็บภาพเบื้อหลังเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาพอควร และยัีงถ่ายภาพให้ภรรยาท้องป่อง 25weeksมาเก็บไว้ดูอีกเพียบ  เราเดินเล่นถ่ายภาพบรรยากาศโรงแรม ดูการจัดตกแต่งสวนหย่อมแล้ว ตอนเย็นใกล้ค่ำจึงได้ไปเดินเล่นที่ ปาลิโอต่อ กินไอศครีมสดถ้วยเดียวถ่ายภาพเล่นจนเป็นที่พอใจจึงกลับโคราช ส่งคุณพ่อคุณแม่ให้อยู่ดูน้องสาวถ่ายภาพที่สตูดิโอต่อ ส่วนฉันทนคำอ้อนคุณสามีไม่ไหวเลยต้องไปลำปลายมาศ(บ้านสามี)ด้วยกัน  ก็เห็นใจที่เขาไม่ยอมกลับซักทีทั้งที่มีงานพรุ่งนี้ต่อ ที่แท้ก็อยากให้ภรรยากลับไปด้วยกันนี่เอง อิอิ


ติดตามชมภาพเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ  http://ohhohappy.multiply.com/photos/album/15/15

เที่ยวทุ่งกระเจียวตามใจคนท้อง

                 หลายเดือนแล้วมีอาการแพ้ท้องมากจนไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน  แต่ไปทำงานได้ทุกวัน กินไปอ้วกไปนอนไปทำงานไป  จนเดือนกรกฎาคม อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ อาการแพ้ืท้องเริ่มลดลง แม้จะยังไม่หายแพ้ซะทีเดียว แต่ก็อยากไปเที่ยวบ้าง  ทั้งคุณแม่และัคุณสามีก็อยากตามใจคนท้องให้ได้สดชื่นรื่นเริงบ้างจึงพาไปเที่ยวรับเทศกาลทุ่งดอกกระเจียวบานพอดี อำเภอเทพสถิตอยู่ไม่ห่างจากบ้านเรามาก  แม้จะอยู่คนละจังหวัด แต่ก็ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น รวมเวลาเดินทางไปถึงอุทยานก็ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
                วันที่เราไปเที่ยวกัน เป็นช่วงวันหยุดยาว วันอาสาฬหบูชาวันเข้าพรรษาและมีหยุดชดเชยอีก 1 วัน ทำให้คนหลั่งไหลไปเที่ยวกันมาก จนรถติดยาว จึงใช้เวลาในการเดินทางนานมากจนคนท้องแทบจะทนอ้วกไม่ไหว  พอลงรถก็หายเวียนหัว แต่ต้องไปเข้าห้องน้ำทันที คนต่อคิวยาวเหยียดมากๆ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ไปซื้อตั๋วต่อคิดรอขึ้นรถสองแถว บางคันเป็นรถ3แถว คนแย่งกันขึ้นน่าดู คุณบิ๊กต้องคอยระวังไม่ให้คนมาวิ่งชน เพราะถ้าไม่มองดูดีๆ ฉันก็ไม่เหมือนคนท้องซักเท่าไหร่ ได้ขึ้นรถแล้วเราลงที่จุดชมวิวสุดแผ่นดิน และเที่ยวเป็นที่แรก

                 คนมาเที่ยวเยอะมากๆ คุณบิ๊กถ่ายรูปที่ผาสุดแผ่นดินก็ติดคนมายืนข้างหลังเพียบ ทำให้ภาพออกมาไม่สวยเลย เพียงแค่ได้เก็บภาพว่า เคยมาที่นี่แล้วคนเยอะขนาดนี้เท่านั้น  อีกทั้งดอกกระเจียวก็ไม่สวย มีแต่ดอกเหี่ยวๆ ไม่ก็ยังโตไม่เต็มที่  แต่อย่างน้อยก็ถือว่ายังดีที่คนท้องได้ออกจากบ้านบ้าง  และได้มาซื้อต้นแตรนางฟ้าให้คุณแม่เอาไปปลูกที่บ้าน
ติดตามดูภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ http://ohhohappy.multiply.com/photos/album/12/12


วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทริปฉวยโอกาส2 นครสวรรค์

                เดือนเมษายน 2553 เพื่อนคุณบิ๊กจัดงานแต่งที่นครสวรรค์บ้านเจ้าสาว เราวางแผนการเดินทางครั้งนี้ 3 วัน โดยคุณบิ๊กวางแผนการเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนฉันวางแผนการท่องเที่ยว โดยมีเพื่อนๆ LSQ ให้คำแนะนำที่เที่ยว และร้านของฝาก เราออกเดินทางแต่เช้าตรู่  ไปถึงนครสวรรค์ช่วงสายเืกือบ 9 โมง ไปถึงบ้านเจ้าสาวที่ อ.ลาดยาว ทันพิธีมงคลพอดี กินเลี้ยงเสร็จประมาณ10โมงกว่า ก็ต้องขออำลาเพื่อนๆแล้ว เพราะเรามีโปรแกรมเที่ยวแบบ 1 day trip จึงโอ้เอ้มากไม่ได้
               เราขับรถเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองนครสวรรค์ ที่แรกที่เราแวะคือ วัดพระศรีประชาสรรค์ มีพระธาตุจุฬามณีประดิษฐานอยู่  เลยต้องแวะไปกราบไหว้ซะหน่อย  วัดนี้เป็นวัดที่ดูสงบดีแต่จะว่าเล็กก็คงไม่  มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้วย

                  ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งหน้าไปที่จะออกไปจังหวัดพิษณุโลก เพียงไม่กี่กิโลเมตรมีป้ายบอกทางเข้าวัดคีรีวงศ์ ต้องเข้าซอยเล็กๆไปก่อนจึงจะถึงวัด เมื่อถึงหน้าประตูวัดก็มีทางเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปด้วยทางที่คดเคี้ยวและชันซักเล็กน้อยก็ถึงจุดหมายของเราคือ หอคอยชมเมือง

                      จ่ายค่าธรรมเนียมการขึ้นไปชมเมืองบนหอคอย  คนละ 20 บาทแล้ว ก็กดลิฟท์ไปที่ชั้น 9 แล้วก็ได้ชมวิวจังหวัดนครสวรรค์แบบพาโนราม่าเลยทีเดียว  ฝั่งหนึ่งของหอคอยจะเป็นส่วนของพระธาตุจุฬามณี ที่เราจะไปขอพรให้สมปรารถนากันซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก



                 ชมวิวบนหอคอยแล้วเราลงมาเอารถขับต่อไปนมัสการขอพรจากพระธาตุจุฬามณี อธิฐานขอให้ตั้งท้องซักที ซึ่งจริงๆตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว แต่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง ก็เลยขอพรในสิ่งที่่เราได้แล้ว อิอิ จากนั้นเรามุ่งหน้ากลับเข้ามาในเมือง เพื่อซื้อของฝากและทานมื้อเที่ยงกัน  เราซื้อของฝากที่ร้่านเอ็มเอ็ม และร้านจันทร์สุวรรณตามที่เพื่อนแนะนำ ร้านอยู่ใกล้ๆกันเลย ร้านที่ว่าขายขนมโมจินั่นเอง ซึ่งเป็นของฝากประจำจังหวัดนครสวรรค์ แล้วเราก็รับประทานก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ คือร้านโกเนี้ยว ร้านนี้เป็นร้านดังเช่นกัน มีชื่อเรื่องลูกชิ้นปลากราย ก็เลยสั่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากรายมากิน ส่วนของคุณบิ๊กเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น  สภาพ befor and after เห็นแล้วจะรู้ว่าอร่อยจริง แถมยังหิวจัดอีกด้วย



                 ลูกชิ้นปลากรายอร่อยแบบรสชาติแปลกเป็นเอกลักษณ์ จนต้องซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านเลย ที่สุดท้ายที่เราจะไปเที่ยวก็คือ พิพิธภัณฑ์ปลาบึงบอระเพ็ดนั่นเอง จริงๆแล้วมีอุทยานนกน้ำอีกที่ แต่เวลาเรามีจำกัดกลัวว่าจะกลับถึงบ้านค่ำเกินไป จึงเที่ยวชมแค่บึงบอระเพ็ดเท่านั้น  เราจ่ายค่าผ่านประตูคนละ 100 บาทเพื่อเข้าชม  บริเวณด้านนอกก็มีตู้ทรงขวดโหลขนาดใหญ่บรรจุปลาทะเลนีโมไว้ในนั้น เหมือนกับที่ระยอง

                เราได้เข้าเยี่ยมชมอุโมงค์ปลาน้ำจืดของที่นี่ ได้ทักทายน้องปลากระเบนตัวโต  และได้ดูการให้อาหารปลาแบบคนคุ้นเคยของนักประดาน้ำ ดูน้องปลาแต่ละตัวคุ้นกกับนักประดาน้ำมาก เข้ามารับอาหารถึงมือเลยทีเดียว




                  เสร็จจากการเยี่ยมชมแล้ว เราต้องลาจังหวัดนครสวรรค์มุ่งสู่โคราชบ้านเราซะที  ออกจากนครสวรรค์ 4 โมงเย็น ถึงบ้านโดยปลอดภัยเวลา 2ทุ่มโดยประมาณ  ทริปนี้เป็นทริปฉวยโอกาสที่ดีมาก เพราะเราได้รู้ได้เห็นได้เที่ยวในจังหวัดที่เราไม่เคยมา ไม่เคยรู้ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แม้จะเป็น 1 day Trip ก็ตาม


วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทริปฉวยโอกาสที่พัทยา

                   ช่วงเดือนมีนาคม 2553 คุณบิ๊กได้รับข่าวการสัมนากระทันหันที่ต้องไป เลยขอติดสอยห้อยตามพักผ่อนด้วย การเที่ยวครั้งนี้ไม่มีอะไรนอกจากเข้่าร่วมสัมนา ได้พักและกินอาหารโรงแรม อาชีพของเราไม่เกี่ยวพันกับการท่องเที่ยวเท่าไหร่ ด้วยหน้าที่การงานจึงต้องมีการฉวยโอกาสเที่ยวกันเล็กน้อย นิดหน่อยก็เอา อิอิ ที่พักของเราคือที่ที่จัดสัมนา คือ โรงแรมซิกม่ารีสอร์ท เป็นโรงแรมเก่า แต่ปรับปรุงส่วนของล็อบบี้ใหม่ ก็ถือว่าสวยงาม   แม้ภายในห้องจะเก่า แต่เราก็ได้พักห้องsuit ก็ถือว่าสะดวกสบายพอสมควร




           เราพักที่นี่กัน 2 คืน อาหารทุกมื้อเป็นของโรงแรม รสชาติดีทุกอย่าง อาหารทะเลก็ค่อนข้างสด ทำให้ Happy ดีกับการฉวยโอกาสครั้งนี้  อิอิ  เราได้ถ่ายรูปแค่เฉพาะที่โรงแรมและหาดหน้าโรงแรมเท่านั้น เหมือนไม่ค่อยได้เที่ยว  แต่ก็ยังได้ซื้อของฝากกลับบ้านไปไม่น้อย  ทริปฉวยโอกาสก็อย่างงี้ละ ^_^



ภูริพิมานปากช่อง

     หลังจากที่เราแต่งงาน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 วันรุ่งขึ้นเราไปจดทะเบียนสมรสและก็ช่วยกันดูแลความเรียบร้อยของบ้านซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีมงคล ส่วนงานฉลองจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลหอประชุมเขาเก็บความเรียบร้อยเอง ดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งสถานที่ สวยงามจนเป็นที่ประทับใจแขกทีมาในงาน หลังจากเราแต่งงาน 1 วันเป็นวันลอยกระทงพอดี เราก็เลยได้บริจาคดอกไม้สวยๆในงานให้วัดไปทำกระทง ได้บุญอีกต่อหนึ่ง ฉันแอบเก็บดอกไม้บางส่วนมาทำกระทงเองด้วย มีใบตองที่พับกลีบสวยงามมากับพานขันหมาก ก็เลยเอามาทำกลีบกระทงซะเลย เย็นวันนั้นเราไปลอยกระทงที่บุ่งตาหลัว สถานที่จัดงานอีกแห่งของโคราช คนมาเที่ยวเยอะพอสมควรต้อนรับลมหนาววันแรกของฤดูกาลพอดี
                3 พฤศจิกายน 2552 คุณพ่อคุณแม่ชวนไปดูที่ดินที่ปากช่อง ได้ข่าวว่ามีคนจะขายที่ดินติดภูเขาเลยจะแวะไปชมก่อนตัดสินใจซะหน่อย   หลังจากไปชมที่ดินแล้ว คุณแม่อยากขึ้นไปเที่ยวภูริพิมาน เราเลยได้โอกาสไปเยี่ยมชมถ่ายรูปกัน  ที่นั่นไม่ได้มีเพียงรีสอร์ทให้พักผ่อน แต่ยังมีส่วนของหมู่บ้านตากอากาศที่ทางโครงการได้จัดสรรที่ดินให้สร้างบ้่านตากออากาศอีกด้วย แต่คนฐานะร่ำรวยมากๆเท่านั้นล่ะ ที่จะมีบ้่านอยู่ที่ภูริพิมานได้ เพราะที่ดินแพงมากๆ แถมบ้่านแต่ละหลังจะสวยงามไม่มีที่ติ มีทั้งแบบเรือนไทย เรือนสักทอง บ้านสไตล์ยุโรป และยังมีบ้านสไตล์โมเดิร์นอีกด้วย  ได้เยี่ยมชมพอสมควรแล้วก็มาถ่ายภาพที่บริเวณรีสอร์ทกันต่อ เย็นแล้วจึงเดินทางกลับเข้าตัวเมืองโคราชกัน




Honeymoonเชียงใหม่-ปาย วันสุดท้าย

                  9 ธันวาคม 2552 เราออกจากพิษณุโลกตอน8โมงกว่าแล้ว ขับรถเรื่อยเปื่อยแวะทานอาหารข้างทาง แวะไหว้พระหลายวัดที่เราผ่าน เก็บภาพมาเรื่อยๆ จนมาถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ แอบคิดอยากจะเที่ยวนอกแผน นอนค้างเขาค้่ออีกซักคืน แต่เส้นทางเขาค้้อ ไม่ใช่ทางผ่านต้องแวะเข้่าไปอีก 60 กม. คุณบิ๊กเคยไปมาแล้วและคงจะขับรถเหนื่อยเลยอยากกลับบ้านเรามากกว่า พรุ่งนี้เป็นวันที่ 10ธันวาคม ยังคงเป็นวันหยุดราชการ เราจะได้พัีกก่อนไปทำงานต่อ ก็เลยตกลงตามนั้นว่ากลับไปพักที่บ้่าน  ระหว่างทางก็มีร้านค้าให้ซื้อของมากมาย เจอมะขามหวานเพชรบูรณ์ก็เลยไม่พลาดที่จะแวะซื้อกลับไปเป็นของฝาก  เพราะคุณพ่อของฉันชอบมะขามหวานเอามากๆ
             เราผ่านหลายจังหวัดก็แวะไหว้่พระไปเรื่อยๆ ถึงบ้านก็เป็นเวลา 1 ทุ่มพอดี ถึงได้พักผ่อนกัน ทริปนี้เป็นทริปประทับใจเอามากๆเพราะเราได้วางแผนการท่องเที่ยวเองและได้ไปหลากหลายสถานที่มีหลายรสชาติ ทั้งนอนโรงแรม พักรีสอร์ทแบบคันทรี่ แถมยังได้กางเต๊นท์นอนอีกด้วย นอกจากจะเป็นการมาฮันนีมูนแล้ว ยังได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีมากเลย