หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทริปฉวยโอกาส2 นครสวรรค์

                เดือนเมษายน 2553 เพื่อนคุณบิ๊กจัดงานแต่งที่นครสวรรค์บ้านเจ้าสาว เราวางแผนการเดินทางครั้งนี้ 3 วัน โดยคุณบิ๊กวางแผนการเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนฉันวางแผนการท่องเที่ยว โดยมีเพื่อนๆ LSQ ให้คำแนะนำที่เที่ยว และร้านของฝาก เราออกเดินทางแต่เช้าตรู่  ไปถึงนครสวรรค์ช่วงสายเืกือบ 9 โมง ไปถึงบ้านเจ้าสาวที่ อ.ลาดยาว ทันพิธีมงคลพอดี กินเลี้ยงเสร็จประมาณ10โมงกว่า ก็ต้องขออำลาเพื่อนๆแล้ว เพราะเรามีโปรแกรมเที่ยวแบบ 1 day trip จึงโอ้เอ้มากไม่ได้
               เราขับรถเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองนครสวรรค์ ที่แรกที่เราแวะคือ วัดพระศรีประชาสรรค์ มีพระธาตุจุฬามณีประดิษฐานอยู่  เลยต้องแวะไปกราบไหว้ซะหน่อย  วัดนี้เป็นวัดที่ดูสงบดีแต่จะว่าเล็กก็คงไม่  มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้วย

                  ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งหน้าไปที่จะออกไปจังหวัดพิษณุโลก เพียงไม่กี่กิโลเมตรมีป้ายบอกทางเข้าวัดคีรีวงศ์ ต้องเข้าซอยเล็กๆไปก่อนจึงจะถึงวัด เมื่อถึงหน้าประตูวัดก็มีทางเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปด้วยทางที่คดเคี้ยวและชันซักเล็กน้อยก็ถึงจุดหมายของเราคือ หอคอยชมเมือง

                      จ่ายค่าธรรมเนียมการขึ้นไปชมเมืองบนหอคอย  คนละ 20 บาทแล้ว ก็กดลิฟท์ไปที่ชั้น 9 แล้วก็ได้ชมวิวจังหวัดนครสวรรค์แบบพาโนราม่าเลยทีเดียว  ฝั่งหนึ่งของหอคอยจะเป็นส่วนของพระธาตุจุฬามณี ที่เราจะไปขอพรให้สมปรารถนากันซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก



                 ชมวิวบนหอคอยแล้วเราลงมาเอารถขับต่อไปนมัสการขอพรจากพระธาตุจุฬามณี อธิฐานขอให้ตั้งท้องซักที ซึ่งจริงๆตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว แต่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง ก็เลยขอพรในสิ่งที่่เราได้แล้ว อิอิ จากนั้นเรามุ่งหน้ากลับเข้ามาในเมือง เพื่อซื้อของฝากและทานมื้อเที่ยงกัน  เราซื้อของฝากที่ร้่านเอ็มเอ็ม และร้านจันทร์สุวรรณตามที่เพื่อนแนะนำ ร้านอยู่ใกล้ๆกันเลย ร้านที่ว่าขายขนมโมจินั่นเอง ซึ่งเป็นของฝากประจำจังหวัดนครสวรรค์ แล้วเราก็รับประทานก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ คือร้านโกเนี้ยว ร้านนี้เป็นร้านดังเช่นกัน มีชื่อเรื่องลูกชิ้นปลากราย ก็เลยสั่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากรายมากิน ส่วนของคุณบิ๊กเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น  สภาพ befor and after เห็นแล้วจะรู้ว่าอร่อยจริง แถมยังหิวจัดอีกด้วย



                 ลูกชิ้นปลากรายอร่อยแบบรสชาติแปลกเป็นเอกลักษณ์ จนต้องซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านเลย ที่สุดท้ายที่เราจะไปเที่ยวก็คือ พิพิธภัณฑ์ปลาบึงบอระเพ็ดนั่นเอง จริงๆแล้วมีอุทยานนกน้ำอีกที่ แต่เวลาเรามีจำกัดกลัวว่าจะกลับถึงบ้านค่ำเกินไป จึงเที่ยวชมแค่บึงบอระเพ็ดเท่านั้น  เราจ่ายค่าผ่านประตูคนละ 100 บาทเพื่อเข้าชม  บริเวณด้านนอกก็มีตู้ทรงขวดโหลขนาดใหญ่บรรจุปลาทะเลนีโมไว้ในนั้น เหมือนกับที่ระยอง

                เราได้เข้าเยี่ยมชมอุโมงค์ปลาน้ำจืดของที่นี่ ได้ทักทายน้องปลากระเบนตัวโต  และได้ดูการให้อาหารปลาแบบคนคุ้นเคยของนักประดาน้ำ ดูน้องปลาแต่ละตัวคุ้นกกับนักประดาน้ำมาก เข้ามารับอาหารถึงมือเลยทีเดียว




                  เสร็จจากการเยี่ยมชมแล้ว เราต้องลาจังหวัดนครสวรรค์มุ่งสู่โคราชบ้านเราซะที  ออกจากนครสวรรค์ 4 โมงเย็น ถึงบ้านโดยปลอดภัยเวลา 2ทุ่มโดยประมาณ  ทริปนี้เป็นทริปฉวยโอกาสที่ดีมาก เพราะเราได้รู้ได้เห็นได้เที่ยวในจังหวัดที่เราไม่เคยมา ไม่เคยรู้ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แม้จะเป็น 1 day Trip ก็ตาม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น